เดินทางจากปูซาน(Busan) ไปฟูกุโอกะ (Fukuoka) ด้วยเรือ Queen Beetle 🚢
นั่งเรือเฟอรี่จากเกาหลีไปญี่ปุ่นง่ายนิดเดียว
หากใครมีทริปไปปูซานหรือไปฟูกุโอกะ แล้วพอมีเวลาเหลือซัก 1–2 วัน ก็อยากแนะนำให้ลองข้ามประเทศมาเที่ยวกันซักเล็กน้อย อาจจะค้างซักคืนนึงเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
ระยะทางระหว่างปูซานกับฟูกุโอกะที่จริงไม่ได้ไกลกันมากนัก ห่างกันราวๆ 210 กิโลเมตรได้ ถ้านั่งเครื่องบินก็ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเดียวเท่านั้น แต่ถ้าหากเป็นเรือเฟอรี่ เช่น Queen Bettle นี้ก็จะใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงกับ 40 นาที ถ้าใครเน้นรีบก็แนะนำให้เป็นเครื่องบินดีกว่า แต่ถ้าอยากชิลและได้ประสบการณ์ใหม่ๆ เดินทางด้วยเรือก็เป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่น่าสนใจ
ส่วนวิธีการจองก็ง่ายๆเลย เพียงไปที่ jrbeetle website มีให้เลือกทั้ง Round trip หรือ One way เลือกวันที่ต้องการเดินทางและจำนวนคน และกดเสริชเพื่อดูราคากันได้
สำหรับการเดินทางเดือนเมษา 2023 นั้นจากปูซานไปฟูกุโอกะ จะมีแค่รอบเดียวคือ ออกจากท่าเรือปูซานตอน 15.00 (ถึงท่าเรือฮากาตะ ฟูกุโอกะ เวลา 18.40) ซึ่งน่าเสียดายเพราะอยากจะออกแต่เช้าและได้เที่ยวในเมืองเมื่อถึงมากกว่า ส่วนประเภทที่นั่งนั้น หลักๆจะแบ่งเป็น Economy หรือ Standard class ซึ่งอยู่บริเวณชั้น 1 ของเรือ และ Business class ที่จะอยู่ชั้น 2 ของเรือ และราคาก็แตกต่างกันตามความสบายของที่นั่ง
พร้อมแล้วก็ไปกันเลย จากทริปนี้เราเดินทางจากที่พักแถวย่าน Nampo ไปที่ Busan Port ด้วยแท็กซี่ Uber ใช้เวลาราว 15–20 นาที เสียค่า Uber ไป 7300 Won ก็ถือไม่แพงเลย แนะนำว่าเผื่อเวลาซัก 2 ชั่วโมงก่อนออกกำลังโอเค 🚕
หลังมาถึง Busan Port ขึ้นไปหาเคาท์เตอร์ Queen Beetle ได้เลยที่ชั้น 3 ซึ่งส่วนใหญ่ก็พอมีคิวอยู่บ้างแต่ไม่ได้ใช้มาก ก็แค่เตรียมเอกสารการจองกับพวก Passport ไว้ สำหรับคนที่เดินทางขาเดียว เขาก็จะขอดูพวกไฟลท์กับจากทางญี่ปุ่นด้วย สำหรับโซนชั้น 3 นั้นนอกจากเคาท์เตอร์เรือต่างๆแล้วก็ยังมี foodcourt และ duty free เล็กๆให้ช้อปปิ้งฆ่าเวลาอีกด้วย
หลังจากนั้นเราก็จะผ่านเข้า immigration และสแกนกระเป๋าตามขั้นตอนปกติ ซึ่งเรือจะต่างกับเครื่องบินตรงพวกกระเป๋าใหญ่ไม่มีให้โหลด ดังนั้นกระเป๋าใหญ่ต่างๆจะติดตัวกับเราขึ้นเรือไปด้วยเลย และเมื่อถึงเวลาเราจะเดินตามกันไปขึ้นเลย โดยยึดเส้นทางพื้นสีเขียวไว้
เมื่อขึ้นเรือแล้วสิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ การเอาสัมภาระใบใหญ่ไปเก็บ ซึ่งก็จะเป็นช่องๆที่ต้องแชร์กันกับผู้โดยสารอื่นๆ แล้วก็จำเลขช่องนั้นๆไว้ จากนั้นก็เอาของติดตัวไปเดินหาที่นั่งได้เลย ซึ่งชั้นหนึ่งก็จะเป็น economy class ส่วนชั้นสองจะเป็นของ business class โดยตอนที่คุยกับเคาท์เตอร์เราสามารถแจ้งได้ว่าขอนั่งริมหน้าต่าง หรือบริเวณตรงกลาง
ที่นั่งส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นแบบคู่ และมีแบบสี่คน(หันหน้าเข้าหากันด้วยเช่นกัน) เก้าอี้นั่งสบายพอประมาณ เบาะปรับเอนได้ พื้นที่ leg room โอเค (กว้างกว่าเครื่องบิน eco class) บนเรือจะมีพวกตู้ขายน้ำอยู่ และรวมถึงขายกาแฟและอาหารเล็กน้อยอยู่ด้วยเช่นกัน สามารถใช้เงินสดหรือบัตรเครดิตซื้อก็ได้ ราคาก็กลางๆไม่ได้แรงมาก🥘☕ รวมถึงชั้น 2 จะมี duty free เล็กๆให้บริการอยู่ด้วยสำหรับสายช้อปปิ้ง ซึ่งเรือก็จะเดินทางใช้เวลาราวๆ 3 ชั่วโมง 40 นาที ก็จะถึงท่าเรือ Hakata ของฝั่ง Fukuoka ฝั่งนี้ก็จะเจอ immigration อีกนิดหน่อยก็ออกมาเที่ยวต่อได้แล้ว
โดยรวมก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีถ้าพอมีเวลาเดินทาง เพราะจะได้บรรยากาศไปอีกแบบ ระหว่างนั่งจะดูหนังซักเรื่องฟังเพลงอีกนิดหน่อย หรือจะงีบยาวๆก็ได้ อีกทั้งค่าเดินทางด้วยเรือก็ไม่ได้แพงด้วย ตกคนล่ะประมาณ 1700 บาทได้ (ขึ้นกับช่วงเดือนด้วย) ซึ่งเทียบกับเครื่องบินแม้จะเป็น low cost เราก็ต้องเสียค่าโหลดกระเป๋าอีก แต่ก็จะมีข้อดีตรงใช้เวลาค่อนข้างน้อยหรือราว 1 ชั่วนิดๆเท่านั้นเอง
Other reviews.
รถไฟเกาหลีสายชิล Sky Capsule (Haeundae Blueline Park) 🚆🇰🇷 >> https://rb.gy/catesm
“Love at frost sight🌋🧊” — Iceland trip ง่ายๆ ใครๆก็ไปได้ ❄️🥶 >> https://bit.ly/3occdTT
🏝️I can finally tick ‘visit the Maldives’ off my bucket list🌅 >> https://shorturl.at/eoEGK
✈️พาเที่ยว Switzerland แบบเร็วๆ เน้นชิลไม่ลำบาก🚠🏔️ >> https://shorturl.at/twxyQ
